หนุ่มจีนสุดช็อก จากการตัดผมราคาหลักร้อยไปจบที่ราคาครึ่งแสน 

   เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของชายชาวจีนรายหนึ่งเอาไว้เมื่อวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ 2566 เป็นเรื่องราวที่ชายชาวจีนรายนี้ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงใช้เล่ห์เหลี่ยมสารพัดจนสูญเสียเงินเกือบครึ่งแสนในการตัดผมแค่ครั้งเดียวทำให้ชายหนุ่มรายนี้กลุ้มใจเป็นอย่างมาก 

หนุ่มจีนสุดช็อก จากการตัดผม สำหรับเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นที่มณฑล้อเจียงประเทศจีนโดยสถานที่เกิดเหตุนั้นเกิดขึ้นที่เมืองหางโจว

โดยชายชาวจีนรายนี้ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ แต่เขาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่เมืองหางโจวได้ไม่นาน ซึ่งประสบการณ์การถูกร้านซาลอนหลอกเรียกเก็บเงิน 0 ไปเกือบครึ่งแสนในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เพื่อนของเขาได้มีการนำบัตรกำนันใช้สำหรับเป็นส่วนลดในการตัดผมได้ซึ่งคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว

หากใช้บัตรกำนันในการเป็นส่วนลดก็จะเสียค่าใช้จ่ายในการตัดผมเหลือแค่ประมาณ 100 บาทเท่านั้นทำให้ชายชาวจีนรายนี้ตัดสินใจไปที่ร้านทำผมดังกล่าวโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงประมาณปลายเดือนเมษายนปีพ.ศ 2566 

อย่างไรก็ตามเมื่อชายชาวจีนไปถึงร้านซาลอนตัดผมก็ได้มีการแจ้งกับทางพนักงานของร้านรวมถึงได้มีการแสดงบัตรกำนัลสำหรับเป็นส่วนลดในการตัดผมแต่ก็ถูกพนักงานนั้นเชิญชวนทั้งแนะนำให้ซื้อเกี่ยวกับโปรโมชั่นบำรุงผิวหน้ารวมถึงยังแนะนำให้ซื้อบัตรกำนัลส่วนลดเพิ่มเติมทำให้ในขณะนั้น ถึงแม้ว่ายังไม่ได้มีการตัดผมแต่ก็มีการซื้อคอร์สต่างๆไปทั้งสิ้นราว 24,000 บาทแล้ว 

นอกจากนี้เมื่อถึงช่วงเวลาที่ได้ตัดผมปรากฏว่าพนักงานก็มีการแจ้งราคาตัดผมว่าราคาตัดผมเบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณ 500 ถึง 1,000 บาท

โดยทางชายคนดังกล่าวก็ได้แจ้งกับพนักงานร้านว่ายอดเงินที่แจ้งมานั้นสูงเกินไปจนในขณะนี้ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายได้แล้วแต่พนักงานก็ไม่สนใจและช่างตัดผมก็เข้ามาทำการตัดผมโดยใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆใส่ลงไปในเส้นผมพร้อมกับมีการคิดค่าบริการเพิ่มอยู่ที่ประมาณ 2,900 บาทต่อขวดและเมื่อมีการตัดผมเสร็จได้มีการแจ้งบิลปรากฏว่ายอดรวมที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นอยู่ที่ประมาณ 48,000 บาทเลยทีเดียว 

อย่างไรก็ตามเมื่อชายชาวจีนปฏิเสธที่จะชำระเงินทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่าตนเองไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นปรากฏว่าพนักงานร้านต่างก็มารวมตัวกันร้องชายคนดังกล่าวเอาไว้และบังคับให้ชายคนดังกล่าวทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นกู้ยืมเงินและนำมือถือของลูกค้าไปทำการกดกู้ยืมเงินเองหลังจากนั้นก็ปล่อยตัวชายชาวจีนออกนอกร้านซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นชายชาวจีนคนดังกล่าวมองว่าตนเองนั้นถูกมิจฉาชีพหลอกลวงและถูกใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกให้ซื้อสินค้าและบริการดังนั้นจึงตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวไปฟ้องต่อสื่อท้องถิ่นเพื่อให้ช่วยเหลือและทำการตรวจสอบ  

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชายชาวจีนรายนี้ไม่ได้มีเกิดขึ้นเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้นแต่ในประเทศไทยเองก็มีคนไทยเป็นจำนวนมากที่เข้าร้านเสริมสวยแล้วถูกเจ้าของร้านล่อลวงคิดค่าบริการเกินจริงเช่นกัน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet เว็บหลัก