ชายคลั่งใช้มีดอีโต้ ไล่ฟันน้องสาวชาวได้รับบาดเจ็บ
เหตุเกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีภูธร นางรอง ได้รับแจ้งเหตุ
มีคนคลั่งทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ จึงรีบ ไป ณ จุดเกิดเหตุ ที่หมู่บ้าน โคกเจริญพัฒนา หมู่ 11 ตำบลถนนหัก อำเภอนางรองจังหวัดบุรีรัมย์ ไปถึงที่เกิดเหตุนั้น ก็พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงวัย กลางคนได้ถูกฟันที่ขา เลือดไหลและได้เห็นผู้ก่อเหตุ ถือมีดอีโต้ 2 เล่มและรีบหลบหนีเข้าป่าหลังบ้านทันที
ซึ่งเบื้องต้นได้สอบถามข้อมูลภายในบ้าน ทราบว่า หญิงที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นน้องสาวของคนที่ทำร้ายโดยมีดอีโต้ ซึ่ง ต้นเหตุ น่าจะมาจาก น้องสาว ไม่ยอมให้พี่ชายยืมรถจักรยานยนต์ออกไปซื้อมะพร้าว จึงทำให้พี่ชายเกิดอารมณ์โมโหซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการทะเลาะกันก่อนแต่ไม่ได้ถึงขั้นลงมือแต่ครั้งนี้พี่ชายได้ลงมือฟันน้องสาวตนเอง ได้รับบาดเจ็บ
เหตุผลที่น้องสาว ไม่ให้พี่ชายยืมจักรยานยนต์นั้นเป็นเพราะว่าตนต้องออกไปทำงานตอนเช้า จึงไม่ให้ยืมจักรยานยนต์ ต้องมาได้รับบาดเจ็บ เพราะเหตุนี้ เบื้องต้นทั้งลูกชายของผู้บาดเจ็บ แจ้งว่า ลุงผู้ที่ก่อเหตุ น่าจะเกิดจากอาการ ผู้ป่วยทางจิตซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการรักษาและได้รับยามากินแต่ผู้ก่อเหตุ กินยาไม่ต่อเนื่อง ชอบพูดอยู่ตลอดว่าหายเป็นปกติแล้ว
แต่ทุกคนในบ้าน ก็พยายาม เตือนให้กินยาตามที่หมอสั่ง เจ้าตัวไม่ยอมรับ จะเกิดการทะเลาะทุกครั้ง และผู้ก่อเหตุ จะไม่ชอบเวลา ใครที่พูดตะคอกใส่หรือเสียงดังใส่จะมีอารมณ์โมโหทันที ทางด้านผู้เป็นแม่ของทั้งคู่ก็ยืนยันอีกเสียงหนึ่งว่า เหตุที่ทะเลาะนั้นเป็นเพราะลูกชายอาจจะเกิดอาการคุ้มคลั่งจากการที่ไม่ได้กินยา ของการป่วยจิตเวชจึงทำให้คุ้มคลั่งคุมสติตนเองไม่ได้
จึงทำร้ายน้องสาวของตนเอง พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุลูกชายก็หนีเข้าป่าหลังบ้านทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบนำกำลังรีบค้นหา เพื่อไม่ให้ไปทำร้ายผู้อื่นเพิ่มเติม และแจ้งให้ชาวบ้านให้อยู่ภายในบ้าน หากอยู่ใกล้เคียงพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ประสานงานทางโรงพยาบาลให้มารับตัว ของผู้บาดเจ็บ ไปทำแผลและเช็คร่างกายอย่างละเอียด ที่โรงพยาบาลนางรอง
ส่วน ผู้ก่อเหตุ มีชาวบ้านมาแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่ามองเห็น อยู่แถว บ้านร้างห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบไปยังจุดที่ชาวบ้านพบเห็นทันทีพร้อมอุปกรณ์ในการ เข้าล็อคตัวผู้ก่อเหตุ ไป ถึง จุดที่พบเจอชายคลั่งคนนี้ก็นั่งอยู่ภายในบ้านร้างโดยที่ไม่มีการคุ้มคลั่งอยู่นิ่งเฉย
ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับแต่โดยดี ไม่มีท่าทีต่อสู้ แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว ไปส่งโรงพยาบาล เพื่อตรวจสอบดูประวัติการรักษาและให้ตรวจสอบ สภาพจิตใจ ของชายคนนี้อีกครั้งว่าอยู่ในสภาพ คนปกติหรือยังเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ก็ให้ทางโรงพยาบาลทำการ รักษาต่อไป ผู้เป็นแม่นั้น
ก็อยากจะให้ลูกชายนั้นหายเป็นปกติ จึงยอมให้นำตัวลูกชายไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาให้หายเป็นปกติอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยรักษามา 2 ครั้งแล้ว ถ้าลูกชายยังมี อาการป่วยทางจิตเวชอยู่นั้นก็ให้ทางโรงพยาบาลทำการรักษาอาการนี้อีกครั้ง โดยดูแล เจ้าหน้าที่
สนับสนุนโดย huaydee