สจ๊วตหนุ่ม แนะนำไม่ควรดื่มกาแฟบนเครื่องบิน
เมื่อวันที่ 3 เดือนธันวาคมปีพ.ศ 2566 ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปของชายหนุ่มรายหนึ่ง
ซึ่งระบุว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวนั้นทำงานเป็นสจ๊วตบนเครื่องบินมีหน้าที่คอยบริการลูกค้าที่มาใช้บริการบนเครื่องบิน ซึ่งชายหนุ่มรายนี้ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวซึ่งเป็นความลับที่เชื่อว่าลูกค้าที่ไปใช้บริการของสายการบินต่างๆจะไม่เคยรู้เป็นความลับที่เกิดขึ้นในหน้าที่อาชีพการงานของเขานั่นเองและความรับนี้ก็สร้างความน่าสะพรึงกลัวให้กับผู้โดยสารที่ไปใช้บริการของสายการบินเป็นอย่างมาก
สำหรับความลับที่หนุ่มสจ๊วตรายนี้ได้มีการเปิดเผยในโลกออนไลน์จนเกิดกระแสมากมาย นั่นก็คือสเกิร์ตหนุ่มรายนี้ได้มี tiktok เป็นของตนเองและได้มีผู้ติดตามเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของกาแฟบนเครื่องบิน
ซึ่งทางสจ๊วหนูก็ให้ความสนใจกับคำถามนี้เป็นอย่างมากโดยแนะนำว่าถ้าหากเป็นไปได้แนะนำให้มาก่อนเวลาและซื้อกาแฟดื่มจากร้านกาแฟที่สนามบินก่อนอย่ามาดื่มกาแฟบนเครื่องบิน
เหตุผลนั่นก็เพราะว่ากาแฟบนเครื่องบินนั้นสกปรกสำหรับสาเหตุที่สกปรกนั้นไม่ได้เกิดจากตัวกาแฟแต่เกิดจากเครื่องทำกาแฟนั่นเองโดยสเกิร์ตหนุ่มแต่เราข้อมูลให้ฟังว่าเวลาที่มีการต้มกาแฟและกาแฟเหลือพนักงานจะมีการนำน้ำกาแฟไปเททิ้งในโถชักโครกซึ่งหม้อกาแฟก็จะต้องเทเข้าไปใกล้กับชักโครกมากที่สุด
เพื่อไม่ให้น้ำกาแฟกระเด็นดังนั้นสิ่งปฏิกูลและสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียต่างๆที่อยู่ในโถชักโครกก็จะกระเด็นขึ้นมาเข้าไปภายในหม้อกาแฟได้นอกจากนี้น้ำที่ใช้ในการต้มกาแฟก็ยังไม่ค่อยสะอาดเนื่องจากว่าถังน้ำที่กักเก็บน้ำสำหรับในการต้มกาแฟนั้นปกติแล้วไม่มีเจ้าหน้าที่ล้าง
สำหรับหลายคนที่สงสัยว่าถ้าหากทำงานบนเครื่องบินแล้วพนักงานสจ๊วตหรือแม้แต่แอร์โฮสเตสอยากกินกาแฟจะทำอย่างไรถ้าหากว่ากาแฟบนเครื่องบินนั้นไม่สะอาดซึ่งสเกิร์ตหนุ่มรายนี้ก็ออกมาเปิดเผยว่าตัวเขาเองหรือแม้แต่พนักงานคนอื่นๆนั้นจะกินกาแฟแบบซองเพราะสามารถชงในน้ำร้อนได้และสะอาดกว่าแต่โดยส่วนใหญ่แล้วพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็มักจะไม่นิยมทานกาแฟบนเครื่องบินเช่นเดียวกัน
นอกจากบนเครื่องบินจะมีความรักเกี่ยวกับความสกปรกของหม้อกาแฟแล้วสจ๊วตหนุ่มรายนี้ยังแนะนำเพิ่มเติมได้ว่าแม้แต่เบาะที่นั่งเองก็ยังสกปรกอีกด้วยซึ่งถ้าสังเกตให้ดีตรงบริเวณด้านหลังของที่นั่งของเครื่องบินนั้นมักจะมีถุงขนมถุงกระดาษเช็ดชู่เส้นผมติดเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดพบบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นบริเวณที่พนักงานทำความสะอาดบนเครื่องบินมักจะไม่ค่อยไปทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อกัน
อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องราวของสจ๊วตหนุ่มที่เปิดเผยบนโลกออนไลน์ได้ถูกแชร์ออกไปเป็นวันกว้างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็รู้สึกรังเกียจความลับนี้เป็นอย่างมากซึ่งหลายคนก็ออกมาขอบคุณสจ๊วตหนุ่มที่ให้คำแนะนำพร้อมกับระบุว่าถ้าหากมีการใช้บริการบนเครื่องบินในครั้งต่อไปก็จะไม่สั่งก
สนับสนุนเนื้อหาโดย Holiday Palace